เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ต้องเคยเจอประสบการณ์นี้ อยู่ดี ๆ ก็มือลอก นิ้วลอก แบบไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร บางครั้งยังมีอาการคัน ยิ่งเกายิ่งคันและลอกเป็นขุยหนักขึ้น ทาครีมแล้วก็ยังไม่หาย จนเกิดความรู้สึกวิตกกังวลกับอาการที่เกิดขึ้น กลัวจะป่วยเป็นโรคอะไรหรือเปล่า? บางคนอาการไม่ยอมหายไปซักที กังวลว่าจะเป็นปัญหาสุขภาพ ถ้าหากปล่อยทิ้งไว้อาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต ทางที่ดีลองมาเช็คลิสต์กันสักนิดว่านิ้วลอกลามไปทั้งฝ่ามือแบบนี้เกิดขึ้นจากอะไร จะได้หาทางดูแลรักษาได้ตรงจุด

อาการนิ้วลอกเป็นอย่างไร แบบไหนที่ผิดปกติ?

ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าผิวหนังบริเวณมือจะถูกใช้งานมากกว่าพื้นผิวบริเวณอื่น สัมผัสกับสิ่งต่าง ๆ มากมาย เพราะเราใช้มือในการหยิบจับสิ่งของ ดังนั้นการที่ผิวบริเวณนี้จะสัมผัสกับสารเคมีหรือตัวกระตุ้นที่ทำให้ผิวเกิดอาการระคายเคืองจึงเป็นไปได้ง่าย โดยทั่วไปอาการมักจะไม่รุนแรง มีเพียงนิ้วลอกเล็กน้อย หรืออาจลอกทั้งฝ่ามือ ไม่เกิน 2-3 วันก็หายเป็นปกติ โดยอาการหลัก ๆ คือ ผิวลอกหนังชั้นนอกสุดหลุดลอกกออกมา

เมื่อสัมผัสจะรู้สึกได้ถึงความแห้งกร้าน ผิวหนังขรุขระ กระด้าง และรู้สึกแสบคันในบางครั้ง มีทั้งอาการลอกแบบเป็นแผ่นใหญ่ ๆ และเป็นขุยขนาดเล็ก เป็นได้ทั้งแบบปลายนิ้ว ทั้งนิ้ว หรือลุกลามไปทั่วทั้งฝ่ามือ เวลาสัมผัสอะไรบางครั้งจะรู้สึกเจ็บ ๆ คัน ๆ ใน

ในรายที่มีอาการรุนแรง จะเกิดอาการนิ้วลอกอย่างหนัก จนลายนิ้วมือจางหรือหายไป บางคนมีตุ่มน้ำใส ๆ เกิดร่วมด้วย ผิวบริเวณดังกล่าวจะบางกว่าปกติ เสี่ยงที่จะเป็นแผลได้ง่าย ผิวแดงและแสบร่วมด้วย ยิ่งแกะหรือเก่า จะยิ่งทำให้อาการหนัก เสี่ยงที่จะกลายเป็นแผลติดเชื้อตามมาได้หากไม่รีบดูแลตัวเอง หรือเข้ารับการตรวจรักษาจากแพทย์

นิ้วลอก มือลอกเกิดขึ้นจากอะไร?

สาเหตุที่พบได้บ่อยของอาการนิ้วลอกที่ควรรู้ เพื่อจะได้ดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี มีดังนี้

1.แพ้สารเคมี – ถือว่าเป็นอาการระคายเคืองที่เกิดขึ้นได้จากการที่ใช้นิ้วมือสัมผัสกับสารเคมีต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น ผงซักฟอก, น้ำยาล้างจาน, ยางผลไม้, น้ำยาล้างรถ เป็นต้น โดยทั่วไปไม่ใช่อาการแพ้ที่รุนแรง แต่พบได้บ่อย พอเลิกใช้สารเคมีที่รู้ว่ามีอาการแพ้ ผิวมือที่ลอกก็จะค่อย ๆ ผลัดเซลล์ผิวใหม่ และหายไปได้เองโดยไม่มีอันตราย

2.สัมผัสกับสารที่มีฤทธิ์กัดกร่อน – แยกออกมาจากเรื่องของสารเคมีก่อนเลย เพราะสารกัดกร่อนไม่ได้หมายถึงสารเคมีเสมอไป แต่การลอกของผิวบริเวณนิ้วหรือฝ่ามือสามารถเกิดขึ้นได้จากกรดธรรมชาติแบบที่เราอาจไม่รู้ตัว เช่น การปอกเปลือกผลไม้เป็นเวลานาน ๆ ติดต่อกันโดยไม่สวมถุงมือ แบบนี้ก็ทำให้ผิวหนังระคายเคืองลอกออกมาได้เหมือนกัน แน่นอนว่าไม่เป็นอันตราย หายไปได้เองหลังจากทำความสะอาดและดูแลผิวด้วยการทาครีมบำรุง

3.อากาศแห้ง – อาการที่มีสภาพแห้งเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ฤดูหนาว ที่มีทั้งลมและความเย็นที่ลดลง ทำให้ผิวหนังของเราเสี่ยงที่จะเกิดอาการขาดน้ำ เกิดความแห้งและเป็นขุยตามมา โดยมากจะเกิดกับคนที่มีสภาพผิวแห้งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ผิวหนังส่วนที่บอบบางที่สุดจะเกิดปัญหานี้ได้

วิธีรักษาอาการนิ้วลอกด้วยตัวเอง

การรักษานิ้วมือลอกแบบทั่วไปที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากความผิดปกติที่มีอันตรายร้ายแรง ไม่จำเป็นต้องพบแพทย์ สามารถรักษาด้วยตัวเองได้โดยการใช้ครีมบำรุงผิวเพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้นิ้วมือ หลีกเลี่ยงสารกระตุ้นที่เป็นตัวการทำให้ผิวบริเวณนั้นระคายเคือง

กรณีที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ให้เปลี่ยนยี่ห้อของผลิตภัณฑ์เป็นสูตรอ่อนโยน หรือใช้ถุงมือป้องกันขณะใช้งาน เช่น การสวมถุงมือเพื่อล้างจาน หรือใช้เครื่องซักผ้าแทนการใช้มือขยี้ หลังจากพักมือ อาบน้ำทำความสะอาดร่างกายแล้ว ให้ทาครีมเบบี้ออยล์หรือน้ำมันมะพร้าว แนะนำว่าให้ทาก่อนนอนเพื่อช่วยให้ตัวครีมเข้าไปบำรุงผิวได้ตลอดทั้งคืน ไม่ถูกชะล้างออกไประหว่างวัน ส่วนช่วงตอนกลางวันให้หมั่นทาโลชั่นบ่อย ๆ และสวมถุงมือเพื่อป้องกันผิวไม่ให้น้ำจากเซลล์ผิวระเหยออกไป

ส่วนลักษณะที่เป็นการลอกแบบผิดปกติ การรักษาด้วยตัวเองไม่เพียงพอ จะต้องใช้ยารักษาตามคำสั่งของแพทย์ร่วมด้วย ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากโรคผิวหนัง การแพ้สารเคมีอย่างรุนแรง หรือโรคภูมิแพ้ อาการจะเป็น ๆ หาย ๆ และไม่หายขาด ถ้าไม่ทำการรักษา จะทำให้การลอกลุกลามหนักขึ้นไปยังส่วนอื่นได้ ผิวบริเวณมือจะลอกจนแทบมองไม่เห็นลายมือ กลายเป็นผิวหนังอักเสบเรื้อรัง มีอาการนิ้วมือกางได้ไม่สุด ผิวหนังบางส่วนหนาผิดปกติ มีพังผืดดึงรั้งจนทำให้รู้สึกเจ็บ หรืออาการอื่น ๆ ที่ดูแล้วไม่ใช่แค่นิ้วลอกธรรมดา แบบนี้แนะนำให้รีบปรึกษาแพทย์โดยด่วนที่สุด

โดยสรุปแล้วอาการนิ้วลอกมักจะเป็นอาการที่พบได้ทั่วไป และหายไปได้เอง แต่อย่างไรก็ตามควรสังเกตด้วยว่ามีความผิดปกติอื่นใดรวมอยู่ด้วยไหม จะได้รู้ว่าแบบไหนควรเข้ารับการตรวจจากแพทย์ ที่เหลือก็อย่าลืมดูแลมือของตัวเองให้ดี เพราะเป็นหนึ่งในอวัยวะสำคัญที่ใช้งานบ่อย ทำหน้าที่หยิบจับกับสิ่งต่าง ๆ มากมาย การป้องกันดูแลอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงสารอันตรายด้วยการสวมถุงมือ ไม่สัมผัสกับสารอันตรายโดยตรง ก็จะช่วยลดความเสี่ยงได้มากขึ้นอีกทาง