ยาแก้ท้องอืด

ยาแก้ท้องอืด เป็นอีกหนึ่งยาสามัญประจำบ้านที่ทุกบ้านควรมีไว้ เพราะอาการท้องอืดมักเป็นอาการที่หลายคนมักจะเป็นกันมาก อันเกิดจากอาหารไม่ย่อยหรือกินอาหารในปริมาณที่มากเกินไป กินอาหารที่เต็มไปด้วยกรดแก๊สและอาหารรสจัดจ้าน เป็นต้น อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่กำลังเผชิญกับอาการท้องอืดบ่อย ๆ และหากกำลังมองหายาแก้ท้องอืดกันอยู่ บทความวันนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักยาชนิดดังกล่าวกัน แต่ก่อนอื่นเราไปดูสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการนี้ในเบื้องต้นกันก่อนดีกว่าว่าเกิดจากอะไร จะได้รับมือรู้เท่าทันและหลีกเลี่ยงปัจจัยในการเกิดได้ง่ายขึ้น

สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการท้องอืด        

ก่อนที่จะไปดูยาแก้ท้องอืดว่ามีอะไรบ้างนั้น เราจะพาคุณไปดูสาเหตุของอาการนี้กัน ซึ่งสาเหตุที่ก่อให้เกิดอาการท้องอืด จุกเสียด แน่นท้อง อันเนื่องมาจากการที่เกิดแก๊สจำนวนมากอยู่ในลำไส้และกระเพาะอาหาร โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ที่มีอาการท้องอืดนั้นจะมีสาเหตุเกี่ยวกับพฤติกรรมการกินที่ไม่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็น การรับประทานอาหารที่ย่อยยาก การรับประทานอาหารเสร็จใหม่แล้วไปนอน การเคี้ยวอาหารไม่ละเอียด การชอบดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำ หรือแม้แต่การรับประทานอาหารที่มีแก๊สเป็นจำนวนมาก เป็นต้น

นอกจากนี้ ดูดไขมันหน้าท้อง อาการท้องอืดยังสามารถเกิดขึ้นได้จากสาเหตุอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นภาวะที่ร่างกายเกิดความบกพร่อง ทำให้ระบบการย่อยอาหารภายในทำงานร่างกายผิดปกติ หรืออาการท้องอืดที่เกิดจากการมีโรคประจำตัว ก็เป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการท้องอืดได้เช่นเดียวกัน

ยาแก้ท้องอืด มีอะไรบ้าง?

เมื่อเกิดอาการท้องอืดขึ้นมา คนส่วนใหญ่จะใช้ยาเพื่อรักษาอาการดังกล่าว โดยตัวยาที่นิยมนำมาใช้รักษา ล้วนแล้วแต่เป็นยาที่ดี และมีสรรพคุณช่วยลดอาการท้องอืดได้ ซึ่งมียาดังต่อไปนี้

1.อีโน (ENO)

อีโนเป็นยาแก้ท้องอืดที่มีสรรพคุณช่วยลดอาการท้องอืด แน่นท้อง ลดกรดที่เกิดจากแก๊สภายในท้อง ช่วยลดอาการที่เกิดจากอาหารไม่ย่อย และยังช่วยลดอาการจุกแสบบริเวณใต้ลิ้นปี่ได้อีกด้วย

วิธีการใช้ยา : สำหรับผู้ใหญ่และเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป ควรรับประทานยา 1 ซอง หรือ 1 ช้อนชา และรับประทานต่อเนื่องทุก 2-3 ชั่วโมง

ข้อควรระวัง

  • ห้ามใช้ยานี้ในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี
  • ห้ามใช้กับกลุ่มผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคไต และโรคตับ
  • ไม่ควรรับประทานยาอีโนชนิดผง โดยที่ไม่ละลายน้ำก่อน
  • ไม่ควรรับประทานยาติดต่อกันเกิน 2 สัปดาห์
  • ไม่ควรรับประทานยาเกินวันละ 6 ซองหรือ 30 กรัม ต่อวัน

2.ยาธาตุน้ำแดง (Mixt. Stomachica)

ยาธาตุน้ำแดง เป็นยาแก้ท้องอืดอีกหนึ่งชนิดที่มีสรรพคุณช่วยขับลม ลดกรดในกระเพาะอาหาร บรรเทาอาการท้องอืดแน่นท้อง เรอเปรี้ยว และช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี

วิธีการใช้ยา : สำหรับผู้ใหญ่รับประทานก่อนอาหาร ครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ วันละ 3 ครั้ง

เด็กอายุ 6 -12 ปี รับประทานก่อนอาหาร ครั้งละ 1/2 ช้อนโต๊ะ วันละ 3 ครั้ง

ข้อควรระวัง

  • หลีกเลี่ยงการรับประทานยานานเกิน 2 สัปดาห์
  • ควรเขย่าขวดทุกครั้งก่อนรับประทาน
  • ถ้าหากรับประทานยาแล้วเกิดอาการแสบท้อง ควรหยุดยาทันที
  • ผู้ที่เป็นโรคกระเพาะ ควรใช้ยาชนิดนี้อย่างระมัดระวัง เนื่องจากมีแอลกอฮอล์ผสมอยู่อย่างเจือจาง

3.แอร์ – เอ็กซ์ (Air-x)

อีกหนึ่งยาแก้ท้องอืดที่หลายคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี สำหรับแอร์ – เอ็กซ์นั้นมาในรูปแบบยาเม็ด ช่วยบรรเทาอาการท้องอืด จุกเสียด แน่นท้อง ช่วยในการขับลม ช่วยบรรเทาอาการแก๊สที่มีมากในกระเพาะอาหารและลำไส้

วิธีการใช้ยา : สำหรับผู้ใหญ่ เคี้ยวยาให้ละเอียดก่อนกลืน  1-2 เม็ด วันละ 3-4 ครั้ง หรือรับประทานเมื่อมีอาการ

สำหรับเด็ก 6-12 ปี รับประทานยาโดยการเคี้ยวก่อนกลืน 1 เม็ด วันละ 3 ครั้ง

ข้อควรระวัง

  • ห้ามใช้ในผู้ที่มีอาการแพ้ยาชนิดนี้
  • สำหรับผู้ใหญ่ห้ามรับประทานยาเกิน 6 เม็ด/วัน และสำหรับเด็ก 6-12 ปี ห้ามรับประทานยาเกิน 3 เม็ด/วัน
  • ยาชนิดนี้สามารถใช้กับหญิงตั้งครรภ์ได้ แต่ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์หรือเภสัชกร
  • ควรเคี้ยวยาให้ละเอียดก่อนกลืน เพราะยาชนิดนี้เป็นรูปแบบของยาเคี้ยว
  • หลีกเลี่ยงการใช้ยาชนิดนี้ร่วมกับผู้ที่รับประทานยากลุ่มไทรอยด์

และนี่ก็คือ ยาแก้ท้องอืดที่มีสรรพคุณช่วยลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ในผู้ที่มีสาเหตุเกิดจากแก๊สในกระเพาะอาหารและลำไส้จำนวนมาก โดยกลุ่มยาที่เรานำมาแนะนำนี้ ต่างก็เป็นยาที่สามารถช่วยบรรเทาอาการท้องอืดได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นยาแก้ท้องอืดรูปแบบน้ำ รูปแบบผง หรือรูปแบบเม็ด ซึ่งตัวยาแต่ละตัวต่างก็มีวิธีการใช้ ขนาดรับประทาน ข้อห้ามข้อควรระวัง ที่แตกต่างกันออกไป ผู้ที่มีอาการท้องอืด สามารถเลือกใช้ตัวยาดังกล่าวได้ตามความเหมาะสมของตนเองได้เลย

By beauty